กลยุทธ์
เพิ่มคุณค่าให้ลูกค้า ผู้บริโภค ชุมชนที่เราดำเนินงานอยู่ และบริษัทของเรา พร้อมกับลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นี่คือหัวใจหลักของแนวคิดกลยุทธ์ความยั่งยืนของเราและเป้าหมายอันทะเยอทะยาน ในทุกด้าน
การเติบโตและการบริโภคทรัพยากรเป็นกระบวนการที่อยู่ควบคู่กันมายาวนานแล้ว และเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เมื่อใดก็ตามที่ประชากรและมาตรฐานชีวิตเพิ่มสูงขึ้น นั่นหมายถึงการใช้ทรัพยากรโลกมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการคาดการณ์กันว่าประชากรโลกจะเติบโตถึง 9,000 ล้านคนในปี พ.ศ. 2593 แนวโน้มดังกล่าวจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเร็วๆนี้ การบริโภคทรัพยากรจะมีมากขึ้นในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า ขณะที่ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเชื้อเพลิงฟอสซิลหรือน้ำถูกบริโภคในอัตราที่รวดเร็วกว่าที่โลกจะผลิตขึ้นมาใหม่ได้ทัน
พัฒนาการเหล่านี้ไม่เพียงสร้างความท้าทายในอนาคต แต่ยังทำให้เกิดโอกาสอันยิ่งใหญ่เช่นกัน นวัตกรรมและการสร้างความสำเร็จด้วยการใช้ให้น้อยลงจะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความยั่งยืน เราต้องมีโซลูชั่นที่ช่วยให้ผู้คนมีชีวิตที่ดีแต่ใช้วัตถุดิบน้อยลง แนวคิดนี้เป็นหัวใจหลักของกลยุทธ์ความยั่งยืนของเฮงเค็ล เรามุ่งมั่นค้นหาหนทางใหม่ในการเติบโตและเพิ่มคุณภาพชีวิตด้วยการลดการใช้ทรัพยากร เราต้องการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นส์ของเราด้วยนวัตกรรมและความคิดที่ชาญฉลาด เพื่อสร้างคุณค่ามากขึ้นและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลง
ค่านิยมและนิยาม
มีประสิทธิภาพมากขึ้นสามเท่าภายในปี 2573
การส่งเสริมของเราใน 6 แผนงานหลัก
เราให้ความสำคัญกับการดำเนินงานของเราตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าของ 6 แผนงานหลักที่สะท้อนถึงความท้าทายในการพัฒนาอย่างยั่งยืนซึ่งเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของเรา นวัตกรรมและการสร้างความสำเร็จด้วยการใช้ให้น้อยลงจะเป็นกุญแจสำคัญสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ไม่ลดทอนคุณภาพชีวิตของผู้คน เพื่อขับเคลื่อนความก้าวหน้าตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าผ่านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของเรา เราให้ความสำคัญกับขอบเขตที่แน่นอนที่รวมความท้าทายซึ่งเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของเรา เราได้แบ่งย่อยแผนงานหลักเหล่านี้ออกเป็นสองมิติ คือ “เพิ่มคุณค่า” และ “ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม” ความสำเร็จนี้จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อทั้งสองมิติต้องอยู่ในใจพนักงานของเราตลอดเวลาและในการทำงานทุกวัน พร้อมกับสะท้อนอยู่ในกระบวนการธุรกิจเพื่อให้กลยุทธ์ของเราประสบความสำเร็จและบรรลุเป้าหมาย
พื้นที่ที่เราโฟกัสแบ่งออกเป็นสองมิติ คือ“เพิ่มคุณค่าให้มากขึ้น” และ“ลดรอยเท้าคาร์บอน” เรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มคุณค่าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ "ความก้าวหน้าทางสังคม", "ความปลอดภัยและสุขภาพ" และ "ประสิทธิภาพ" ส่วนในด้านที่เกี่ยวข้องกับ "พลังงานและภูมิอากาศ", "วัสดุและของเสีย" และ "น้ำและน้ำเสีย" นั้น เรามุ่งมั่นที่จะลดการใช้ทรัพยากรโดยการลดรอยเท้าทางนิเวศน์วิทยาในการดำเนินธุรกิจและการผลิตผลิตภัณฑ์ของเรา
สิ่งที่เราต้องการบรรลุภายในปี พ.ศ. 2573
เป้าหมาย 20 ปีสำหรับปี พ.ศ. 2573 ของเราคือการเพิ่มคุณค่าที่เราสร้างขึ้นเป็นสามเท่าสำหรับฟุตปรินท์สิ่งแวดล้อมฟุตพริ้นท์ที่เกิดจากการดำเนินงาน ผลิตภัณฑ์ และบริการของเรา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเราที่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นสามเท่าภายในปี พ.ศ. 2573 เราจะต้องปรับปรุงประสิทธิภาพโดยเฉลี่ย 5% ถึง 6% ในแต่ละปี เราได้บรรลุเป้าหมายในปี พ.ศ. 2554 ถึงปี พ.ศ. 2558 ในการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างคุณค่าที่เราสร้างฟุตปรินท์สิ่งแวดล้อมโดยรวม 38% และมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 64% ในปี พ.ศ. 2563
จนถึงขณะนี้เป้าหมายระหว่างกาลของเราแสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์สำคัญในการเดินทางไปสู่เป้าหมายระยะยาวของเราในการเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้นสามเท่าภายในปี พ.ศ. 2573
ให้ผลงานที่มากกว่า...

ความก้าวหน้าทางสังคม
ความก้าวหน้าทางสังคม
เราต้องการมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันเพื่อความก้าวหน้าทางสังคม เพิ่มขีดความสามารถของผู้คน และปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐาน
● ปรับปรุง 20 ล้านชีวิตทั่วโลกภายในปี พ.ศ. 2568
● มีส่วนร่วมกับพนักงานมากกว่า 50,000 คนในด้านความยั่งยืน
● จัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ 100% ภายในปี พ.ศ. 2568

ประสิทธิภาพ
ประสิทธิภาพ
เราต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับคู่ค้าของเราตลอดห่วงโซ่คุณค่าและเพิ่มยอดขายของเรา
● ผลิตภัณฑ์ใหม่แต่ละชิ้นก่อให้เกิดความยั่งยืน
● ให้ข้อมูลด้านความยั่งยืนที่ครอบคลุมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของเราแก่ลูกค้าและผู้บริโภคของเราภายในปี พ.ศ. 2568
● เพิ่มยอดขายสุทธิต่อตันของผลิตภัณฑ์ 10% ภายในปี พ.ศ. 2568

สุขภาพและความปลอดภัย
สุขภาพและความปลอดภัย
เราต้องการสร้างสถานที่ทำงานที่ปลอดภัยและมีส่วนช่วยให้มีสุขภาพและสุขอนามัยดีขึ้น
● ปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสุขภาพและความปลอดภัยของเรา 60% ต่อหนึ่งล้านชั่วโมงการทำงานภายในปี พ.ศ. 2568
● อุบัติเหตุเป็นศูนย์คือเป้าหมายระยะยาวของเรา
● เข้าถึงพนักงาน 90% ด้วยแคมเปญด้านสุขภาพทั่วโลกในแต่ละปี
... ทิ้งร่องรอยไว้น้อยลง

พลังงานและสภาพภูมิอากาศ
พลังงานและสภาพภูมิอากาศ
เราต้องการมีส่วนร่วมในการปกป้องสภาพอากาศ พึ่งพาพลังงานหมุนเวียน และลดการใช้พลังงานและการปล่อยมลพิษของเรา
● ลดการปล่อย CO2 ของเราลง 65% ต่อตันของผลิตภัณฑ์ภายในปี พ.ศ. 2568
● ลดการปล่อย CO2 ของเราลง 75% และผลิตไฟฟ้า 100% จากแหล่งพลังงานหมุนเวียนภายในปี 2573
● เปลี่ยนสภาพอากาศให้เป็นบวกภายในปี พ.ศ. 2583
● ประหยัด CO2 100 ล้านตันร่วมกับผู้บริโภคลูกค้าและซัพพลายเออร์ของเราตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ถึงปี พ.ศ. 2568

วัสดุและของเสีย
วัสดุและของเสีย
เราต้องการใช้วัสดุอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เปลี่ยนเป็นแหล่งที่ยั่งยืนอย่างเต็มที่ และสร้างขยะน้อยลง
● ลดการสร้างขยะ 50% ต่อตันของผลิตภัณฑ์ภายในปี พ.ศ. 2568
● บรรจุภัณฑ์รีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้* 100% และลดพลาสติกบริสุทธิ์จากฟอสซิลลง 50% รวมถึงพลาสติกรีไซเคิลอย่างน้อย 30% สำหรับผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค และขยะพลาสติกเป็นศูนย์ไปสู่ธรรมชาติภายในปี พ.ศ. 2568
● น้ำมันปาล์ม: มีแหล่งที่มาอย่างมีความรับผิดชอบและมั่นใจได้จากภายนอก 100% และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ 100%
* ไม่รวมผลิตภัณฑ์กาวที่สารตกค้างอาจส่งผลต่อความสามารถในการรีไซเคิลหรือที่ก่อให้เกิดมลพิษในกระบวนการรีไซเคิล

น้ำและน้ำเสีย
น้ำและน้ำเสีย
เราต้องการลดผลกระทบต่อน้ำ และลดการใช้น้ำและน้ำเสีย
● ลดการใช้น้ำลง 35% ต่อตันของผลิตภัณฑ์ภายในปี พ.ศ. 2568
● ส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ของเราอย่างมีความรับผิดชอบเพื่อลดการใช้น้ำ
สิ่งที่เราประสบความสำเร็จ
เพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาวของเราในการเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นสามเท่าภายในปี 2573 เราได้กำหนดเป้าหมายระหว่างกาลอย่างเป็นรูปธรรมสำหรับปี 2563 โดยมีสถานะปัจจุบันดังนี้
การกำหนดหัวข้อที่เกี่ยวข้องและการเปิดรับข้อมูลและมุมมองในเชิงลึก
ในการที่จะกำหนดและจัดหมวดหมู่หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมการดำเนินธุรกิจและการจัดทำรายงานของเรานั้น เราได้มีส่วนร่วมในกระบวนการบันทึกและประเมินความท้าทายและโอกาสของการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยใช้เครื่องมือต่างๆ เรามีการประเมินความสำคัญของแต่ละหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับบริษัท สิ่งแวดล้อมและสังคม รวมทั้งผู้มีส่วนได้เสียของเรา การพูดคุยกับผู้มีส่วนได้เสียของเราช่วยให้เราได้รับข้อมูลและมุมมองเชิงลึกจากภายนอกธุรกิจและส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน และสามารถลำดับความสำคัญและความท้าทายที่มีร่วมกันได้ นอกจากนี้เรายังมีการพิจารณาเกณฑ์การประเมินของการจัดอันดับทางการเงินและการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวทางของ Global Reporting Initiative (GRI) ผลลัพธ์ของกระบวนการเหล่านี้สามารถแบ่งได้เป็น 6 หมวดหมู่ ซึ่งเราได้ระบุไว้ในการวิเคราะห์เชิงรูปธรรม ในหมวดหมู่ทั้งหลายเหล่านี้ เราต้องการที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปทั่วโลกให้ควบคู่ไปกับห่วงโซ่คุณค่าในการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของเรา