ยอดขายเติบโตสูงขึ้น ณ ไตรมาส 3 โดยทั้งสองหน่วยธุรกิจมีพัฒนาการด้านปริมาณยอดขายในเชิงบวก

• ยอดขายรวมของกลุ่มบริษัท: 5.1 พันล้านยูโร เติบโตแบบออร์แกนิก +1.4 เปอร์เซ็นต์
• ธุรกิจเทคโนโลยีกาว: มียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิก 2.5 เปอร์เซ็นต์ โดยมีการพัฒนาในด้านปริมาณและราคาที่เป็นบวก
• ธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์: มียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิก 0.4 เปอร์เซ็นต์ โดยมีปริมาณขายเพิ่มขึ้น แม้ว่าความต้องการของผู้บริโภคจะยังคงอยู่ในระดับต่ำก็ตาม
• ยอดขายเติบโตในภูมิภาคอเมริกาเหนืออยู่ในระดับที่ดี โดยได้รับแรงหนุนจากทั้งสองหน่วยธุรกิจ
• การควบรวมธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์เสร็จสมบูรณ์ตามแผนภายในสิ้นปีนี้
• แนวโน้มผลประกอบการตลอดทั้งปี: อยู่ในช่วงประมาณการเดิม

นไตรมาส 3 ของปี 2025 เฮงเค็ล มียอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แม้อยู่ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ยังคงท้าทาย ทั้งจากความต้องการในภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวและภาวะความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำ โดยมียอดขายรวมของกลุ่มบริษัทอยู่ที่ประมาณ 5.1 พันล้านยูโร คิดเป็นอัตราการเติบโตแบบออร์แกนิก 1.4% การเติบโตในระดับกลุ่มบริษัทได้รับแรงสนับสนุนหลักจากการขยายตัวของปริมาณยอดขายในทิศทางบวกโดยมีการเคลื่อนไหวของราคาที่ทรงตัว

“ตามที่คาดไว้ แรงส่งของยอดขายยังคงเร่งตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 3 โดยมีหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก ขณะเดียวกันหน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ก็สามารถบรรลุการเติบโตของยอดขายแบบออร์แกนิกในเชิงบวกได้เช่นกัน”
ในมุมมองระดับภูมิภาค การเติบโตของยอดขายในตลาดอเมริกาเหนือนับว่าน่าพอใจเป็นพิเศษ โดยทั้งสองหน่วยธุรกิจมีส่วนร่วมอย่างโดดเด่นในการขยายตัวของยอดขาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิผลของมาตรการที่เราได้ดำเนินการ” Carsten Knobel ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเฮงเค็ลกล่าว

“นอกจากนี้ ผลประกอบการที่ดีของเรายังดำเนินต่อเนื่องในไตรมาส 3 ขณะเดียวกันเรายังคงเดินหน้าลงทุนอย่างต่อเนื่องในธุรกิจและแบรนด์ของเรา ในเวลาเดียวกัน เรากำลังดำเนินการควบรวมธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ได้อย่างราบรื่น และตามที่ได้ประกาศไว้ เราจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน สิ้นปีนี้อย่างแน่นอน เราคาดว่าจะสามารถประหยัดต้นทุนทั้งหมดได้ไม่น้อยกว่า 525 ล้านยูโร ภายในสิ้นปีงบประมาณปัจจุบัน” Carsten Knobel กล่าวเพิ่มเติม

“แนวโน้มผลประกอบการตลอดทั้งปี 2025 ยังคงอยู่ในช่วงคาดการณ์เดิม แม้ว่าความไม่แน่นอนและความท้าทายในตลาดโลกจะยังคงมีอยู่ก็ตาม เรายังคงคาดว่าทั้งอัตรากำไรจากการดำเนินงาน และการเติบโตของกำไรต่อหุ้นที่ปรับปรุงแล้วในอัตราแลกเปลี่ยนคงที่จะอยู่ในช่วงประมาณการปัจจุบัน ของเราอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม หากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไม่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในสิ้นปี การเติบโตของยอดขายแบบออร์แกนิก ของกลุ่มบริษัทคาดว่าจะอยู่ในระดับล่างสุดของช่วงคาดการณ์ปัจจุบันที่ 1 ถึง 2 เปอร์เซ็นต์” Carsten Knobel กล่าวเพิ่มเติม

หน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวมียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกในระดับที่ดีในไตรมาส 3 โดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกลุ่มธุรกิจงานช่างฝีมือ งานก่อสร้าง และมืออาชีพ ยอดขายเติบโตแบบออร์แกนิก ในทิศทางบวกของหน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์นั้น ได้รับแรงขับเคลื่อนหลักมากจากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมทั่วโลก

ผลการดำเนินงานด้านการขายของกลุ่มบริษัท

ยอดขายรวมของกลุ่มบริษัทในไตรมาส 3 ของปี 2025 ลดลงในเชิงมูลค่า -6.3 เปอร์เซ็นต์เหลือ 5,147 ล้านยูโร ผลกระทบจากการเข้าซื้อกิจการ/การขายกิจการส่งผลลบต่อการเติบโตของยอดขาย -2.9 เปอร์เซ็นต์ ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ทำให้ยอดขายลดลง -4.8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อพิจารณาการเติบโตแบบออร์แกนิก (เช่น มูลค่าที่ปรับเปลี่ยนตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และการซื้อกิจการ/การขายกิจการ) ยอดขายเพิ่มขึ้น 1.4 เปอร์เซ็นต์ ในระดับกลุ่มบริษัท การเติบโตนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากการเปลี่ยนแปลง ของราคา ที่อยู่ในระดับคงที่และการเพิ่มขึ้นของปริมาณขายโดยรวมในระดับที่ดี

ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2025 ยอดขายรวมอยู่ที่ 15,549 ล้านยูโร ซึ่งเท่ากับการลดลงในเชิงมูลค่า -4.6 เปอร์เซ็นต์ ในเชิงการเติบโตแบบออร์แกนิก เฮงเค็ล มียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกในทิศทางบวกที่ 0.4 เปอร์เซ็นต์ โดยได้รับแรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงของราคาในทิศทางบวก ในทางตรงกันข้าม ปริมาณขายในระดับกลุ่มบริษัทลดลงเล็กน้อย

การเติบโตของยอดขายแบบออร์แกนิกในไตรมาส 3 ได้รับแรงหนุนจากภูมิภาคอเมริกาเหนือ IMEA และเอเชียแปซิฟิก ในทางตรงกันข้าม ยอดขายแบบออร์แกนิก ในภูมิภาคยุโรปและละตินอเมริกาปรับตัวลดลง

ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2025 การเติบโตของยอดขายแบบออร์แกนิกในทิศทางบวกของเฮงเค็ล ได้รับแรงหนุนจากภูมิภาค IMEA และเอเชียแปซิฟิก

ผลการดำเนินงานด้านการขายของธุรกิจเทคโนโลยีกาว

ในไตรมาส 3 ของปี 2025 หน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวสร้างยอดขายได้ 2,708 ล้านยูโร ซึ่งหมายความว่าลดลงในเชิงมูลค่า -3.3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เมื่อพิจารณาการเติบโตแบบออร์แกนิก(เช่นมูลค่าที่ปรับเปลี่ยนตามอัตราแลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศ และการซื้อกิจการ/การขายกิจการ) ยอดขายเพิ่มขึ้น 2.5 เปอร์เซ็นต์ การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงของ ราคาและปริมาณขายในทิศทางบวก ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทำให้ยอดขายลดลง -4.9 เปอร์เซ็นต์ การเข้าซื้อกิจการ/การขายกิจการ ยังส่งผลลบต่อการเติบโต -0.9 เปอร์เซ็นต์

ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2025 หน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวมียอดขายลดลงในเชิงมูลค่า -1.8 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 8,124 ล้านยูโร เมื่อพิจารณาการเติบโตแบบออร์แกนิกหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวมีการเติบโตของยอดขายที่ดีในระดับ 1.6 เปอร์เซ็นต์

การเติบโตของยอดขายแบบออร์แกนิกในระดับที่ดีของหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวในไตรมาส 3 ได้รับแรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกลุ่มธุรกิจงานช่างฝีมือ งานก่อสร้าง และมืออาชีพ กลุ่มธุรกิจยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ มียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 5.9 เปอร์เซ็นต์ การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนมาจากการเติบโตที่เพิ่มขึ้นสองหลักในธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ และการเติบโตที่แข็งแกร่งมากในธุรกิจอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ยอดขายในธุรกิจยานยนต์โดยรวมลดลง เนื่องจากความต้องการในตลาด อยู่ในระดับต่ำ กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภค มียอดขายแบบออร์แกนิกลดลงเล็กน้อยที่ -1.1 เปอร์เซ็นต์ ธุรกิจบรรจุภัณฑ์มียอดขายลดลง ในทางตรงกันข้าม ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคมีการเติบโตในทิศทางบวก ภาคกลุ่มธุรกิจงานช่างฝีมือ งานก่อสร้าง และมืออาชีพมีการเติบโตของยอดขายแบบออร์แกนิก 2.2 เปอร์เซ็นต์ การเติบโตนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของยอดขายในธุรกิจการผลิตและการซ่อมบํารุงทั่วไป ธุรกิจก่อสร้างมียอดขายเติบโตที่ดี ขณะที่ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและงานช่างฝีมือ ก็สามารถสร้างการเติบโตในเชิงบวกได้เช่นกัน

ในมุมมองระดับภูมิภาค หน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวมียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกลดลงเล็กน้อยในยุโรปในไตรมาส 3 โดยภาคกลุ่มธุรกิจงานช่างฝีมือ งานก่อสร้าง และมืออาชีพมียอดขายพัฒนาในทิศทางบวก ขณะที่กลุ่มธุรกิจยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์และสินค้า อุปโภคบริโภค มียอดขายจากภายในลดลง ในทางตรงกันข้าม ภูมิภาคอเมริกาเหนือมียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกในระดับที่ดี โดยได้รับแรงหนุน มาจากกลุ่มธุรกิจยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงกลุ่มธุรกิจงานช่างฝีมือ งานก่อสร้าง และมืออาชีพ ในภูมิภาค IMEA หน่วยธุรกิจนี้มียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกในระดับเลขสองหลัก โดยทั้งสามกลุ่มธุรกิจมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตนี้ ภูมิภาคละตินอเมริกามียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกลดลง โดยได้รับผลกระทบจากทั้งสามกลุ่มธุรกิจ ส่วนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกแข็งแกร่งเป็นพิเศษ เนื่องจากยอดขายในธุรกิจ อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศจีนเพิ่มขึ้นในระดับเลขสองหลัก

ผลการดําเนินงานด้านการขายของธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์

ในหน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ ยอดขายในไตรมาส 3 ของปี 2025 อยู่ที่ 2,402 ล้านยูโร ลดลงในเชิงมูลค่าร้อยละ -9.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เมื่อพิจารณาการเติบโตแบบออร์แกนิก กล่าวคือ มูลค่าที่ปรับเปลี่ยนตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และการเข้าซื้อกิจการ/การขายกิจการ หน่วยธุรกิจมียอดขายเพิ่มขึ้นในทิศทางบวกที่ 0.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งได้รับแรงหนุนมาจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคามีการปรับลดลงเล็กน้อย ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทำให้ยอดขายลดลง -4.8 เปอร์เซ็นต์ การเข้าซื้อกิจการ/การขายกิจการ - โดยเฉพาะการขายกิจการของแบรนด์ค้าปลีกในอเมริกาเหนือ – ยังส่งผลลบต่อยอดขาย -5.0 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย

ในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2025 ยอดขายของธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์มีมูลค่า 7,308 ล้านยูโร ซึ่งสะท้อนถึงการลดลงในเชิงมูลค่า-7.7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อพิจารณาการเติบโตแบบออร์แกนิก ยอดขายลดลงเล็กน้อย -1.0 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากปริมาณขายลดลง

ในไตรมาส 3 กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักผ้าและดูแลบ้านมียอดขายแบบออร์แกนิกลดลง -1.5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสภาวะตลาดที่ท้าทาย ในสภาวะดังกล่าว ยอดขายในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักผ้ามีแนวโน้มลดลงในภาพรวม หมวดผลิตภัณฑ์ทําความสะอาดผ้ามียอดขายลดลง ขณะที่หมวดผลิตภัณฑ์ดูแลผ้ามียอดขายเติบโตในระดับเลขสองหลัก ในทางตรงกันข้าม ยอดขายแบบออร์แกนิกของกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลบ้าน ทรงตัว โดยเฉพาะจากการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งของยอดขายในหมวดผลิตภัณฑ์ล้างจาน อย่างไรก็ตาม หมวดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิว มียอดขายต่ำกว่าระดับของปีก่อนหน้า

กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกอย่างแข็งแกร่งถึง 4.4 เปอร์เซ็นต์ ทั้งกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งได้รับแรงหนุนหลักจากหมวดผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมและผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม และกลุ่มธุรกิจโปรเฟสชันแนล ต่างมียอดขายเติบโต ในระดับที่แข็งแกร่งมาก

ส่วนกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ มียอดขายแบบออร์แกนิกลดลง -3.2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายในภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรป

ในมุมมองระดับภูมิภาค หน่วยธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์มียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกลดลงในภูมิภาคยุโรปในไตรมาส 3 กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมียอดขายเติบโตในระดับที่ดี ขณะที่กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักผ้าและดูแลบ้านมียอดขายพัฒนาในทิศทางลบ ภูมิภาคอเมริกาเหนือมียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกโดยรวมอยู่ในระดับที่ดี โดยได้รับแรงหนุนหลักจากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ภูมิภาค IMEA มียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ภูมิภาคละตินอเมริกามียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกในทิศทางบวก โดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็มียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกในทิศทางบวกเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมมียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิกอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักผ้าและดูแลบ้าน มียอดขายต่ำกว่าระดับของปีก่อนหน้า

สินทรัพย์สุทธิและจุดยืนทางการเงินของกลุ่มบริษัท

สินทรัพย์สุทธิและจุดยืนทางการเงินของกลุ่มบริษัทไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสําคัญในช่วงเวลาที่นํามาพิจารณาเมื่อเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในวันที่ 30 มิถุนายน 2025

แนวโน้มผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทเฮงเค็ล

สำหรับปีงบประมาณ 2025 เฮงเค็ลคาดการณ์ว่ากลุ่มบริษัทจะมียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิก อยู่ในช่วง 1.0 ถึง 2.0 เปอร์เซ็นต์ สำหรับหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาว คาดว่าจะมียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิก อยู่ในช่วง 2.0 ถึง 3.0 เปอร์เซ็นต์ สำหรับธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ บริษัทคาดการณ์ว่าจะมียอดขายเติบโตแบบออร์แกนิก อยู่ในช่วง 0.5 ถึง 1.5 เปอร์เซ็นต์

ผลตอบแทนจากยอดขายที่ปรับแล้ว (อัตรา EBIT ที่ปรับแล้ว) ในระดับกลุ่มบริษัท คาดว่าจะอยู่ในช่วง 14.5 ถึง 15.5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับธุรกิจเทคโนโลยีกาว คาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากยอดขายที่ปรับแล้วอยู่ในช่วง 16.5 ถึง 17.5 เปอร์เซ็นต์ สำหรับธุรกิจคอนซูเมอร์แบรนด์ คาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากยอดขายที่ปรับแล้วอยู่ในช่วง 14.0 ถึง 15.0 เปอร์เซ็นต์ 

กําไรต่อหุ้นบุริมสิทธิที่ปรับแล้ว (EPS) ณ อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงเปอร์เซ็นต์ตัวเลขหลักเดียว ตั้งแต่ระดับต่ำจนถึงสูง

หากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไม่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในสิ้นปี การเติบโตของยอดขายแบบออร์แกนิกของกลุ่มบริษัท รวมถึงทั้งสองหน่วยธุรกิจ คาดว่าจะอยู่ในระดับล่างสุดของช่วงคาดการณ์ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าทั้งอัตรากำไรจาก EBIT ที่ปรับแล้ว ทั้งในระดับกลุ่มบริษัทและระดับหน่วยธุรกิจ รวมถึงการเติบโตของ EPS ที่ปรับแล้วตามอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราคงที่จะยังคงอยู่ในช่วงประมาณการ ปัจจุบันของบริษัท

นอกจากนี้ เรายังมีความคาดหวังต่อไปนี้สําหรับปี 2025 อีกด้วย:

• การเข้าซื้อ/การขายกิจการ: มีผลกระทบเชิงลบต่อการเติบโตของยอดขายตามมูลค่าที่รายงาน ในช่วงเปอร์เซ็นต์ตัวเลขหลักเดียวระดับต่ำ
• การแปลงยอดขายเป็นสกุลเงินต่างประเทศ: มีผลกระทบเชิงลบในช่วงเปอร์เซ็นต์ตัวเลขหนึ่งหลักระดับต่ำถึงปานกลาง
• ราคาวัตถุดิบโดยตรง: เพิ่มขึ้นในช่วงเปอร์เซ็นต์ตัวเลขหลักเดียว ระดับต่ำถึงปานกลางเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของปีก่อนหน้า
• ค่าใช้จ่ายสำหรับการปรับโครงสร้างอยู่ระหว่าง 150 ถึง 200 ล้านยูโร
• กระแสเงินสดที่ไหลออกจากการลงทุนในทรัพย์สิน อุปกรณ์ และสินทรัพย์จับต้องไม่ได้อยู่ระหว่าง 650 ถึง 750 ล้านยูโร

เอกสารนี้ประกอบด้วยคําแถลงที่อ้างถึงการพัฒนาธุรกิจในอนาคต ผลการดําเนินงานทางการเงิน และเหตุการณ์หรือการพัฒนาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Henkel ในอนาคต ซึ่งอาจถือเป็นคําแถลงการคาดการณ์ล่วงหน้า คําแถลงต่าง ๆ อย่างเช่น "คาดหวัง" "ตั้งใจ" "วางแผน" "คาดการณ์" "เชื่อ" "ประเมิน" และคําที่คล้ายคลึงกันเป็นลักษณะของคําแถลงเกี่ยวกับอนาคต คําแถลงดังกล่าวอ้างอิงตามการประเมินและสมมติฐานปัจจุบันของฝ่ายบริหารของบริษัท Henkel AG & Co. KGaA คําแถลงเหล่านี้ไม่ได้หมายความถึงการรับประกันว่าความคาดหวังเหล่านั้นจะพิสูจน์ได้ว่ามีความถูกต้อง ผลการดําเนินงานในอนาคตและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงของ Henkel AG & Co. KGaA และบริษัทในเครือขึ้นอยู่กับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนหลายประการ และอาจแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญ ‏(ทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ) จากคําแถลงที่คาดการณ์ล่วงหน้า ปัจจัยหลายประการเหล่านี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของ Henkel และไม่สามารถประเมินได้ล่วงหน้าอย่างถูกต้อง เช่น สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในอนาคต และการกระทําของคู่แข่งและบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในตลาด Henkel ไม่มีแผนหรือสัญญาว่าจะปรับปรุงคําแถลงการคาดการณ์ล่วงหน้านี้ 

เอกสารนี้ประกอบด้วยตัวชี้วัดทางการเงินเพิ่มเติมที่ไม่ได้นิยามไว้อย่างชัดเจนในกรอบการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้อง และเป็นหรืออาจเป็นมาตรการทางเลือกในการวัดผลการดำเนินงาน ผู้อ่านไม่ควรมองว่าตัวชี้วัดทางการเงินเพิ่มเติมเหล่านี้แยกกันหรือเป็นทางเลือกแทนการวัดสินทรัพย์สุทธิและสถานะทางการเงินหรือผลลัพธ์จากการดําเนินงานของ Henkel ตามที่นําเสนอตามกรอบการรายงานทางการเงินที่เกี่ยวข้องในงบแสดงฐานะทางการเงินรวม ‏(Consolidated Financial Statement) บริษัทอื่น ๆ ที่รายงานหรืออธิบายตัวชี้วัดผลการดำเนินงานทางเลือกที่มีชื่อคล้ายคลึงกันอาจมีการคํานวณด้วยวิธีที่แตกต่างกัน

เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้เป็นคำแนะนำในการลงทุน การเสนอขาย หรือการชักชวนให้ซื้อหลักทรัพย์ใด ๆ