11 พ.ค. 2563  ดุสเซลดอล์ฟ เยอรมนี

ให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19

เฮงเค็ล รายงานยอดขายไตรมาส 1 แข็งแกร่ง แม้ตลาดอยู่ในสภาวะที่ท้าทายอย่างมาก

  • ยอดขายของทั้งกลุ่มได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19: ยอดขายลดลงประมาณ 0.8% และยอดขายปกติลดลง 0.9%
  • ยอดขายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีกาวลดลงเล็กน้อย 4.3% จากสภาวะอุตสาหกรรมทที่หดตัวอย่างรวดเร็ว และยอดขายปกติ ลดลง 4.1%
  • ยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์ลดลง 2.6% จากผลกระทบจากการปิดธุรกิจร้านทำผม ยอดขายปกติ ลดลง 3.9%
  • กลุ่มผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนมียอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 5.3% และยอดขายปกติเพิ่มขึ้น 5.5%
  • พัฒนาการยอดขายระดับภูมิภาคที่แตกต่างกัน: ตลาดเกิดใหม่เติบโต 2.2% ตลาดที่อิ่มตัวแล้วลดลง 2.8%

 ผลการดำเนินงานของ เฮงเค็ล ในช่วงไตรมาสแรก ปี 2563 ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยยอดขายของทั้งกลุ่มลดลง -0.8 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 4.9 พันล้านยูโร แม้จะมีผลกระทบของการระบาดใหญ่ของ COVID-19 แต่ยอดขายนั้นอยู่ระดับต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วเพียงเล็กน้อยซึ่งลดลง-0.9 เปอร์เซ็นต์

“ขณะนี้เรากำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ท้าทายมาก การแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อทุกพื้นที่ของชีวิตและยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสแรกนี้ เรายังประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายโดยรวมที่ยังแข็งแกร่ง ในภาวะวิกฤติครั้งนี้ สุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน ลูกค้าและคู่ค้าทางธุรกิจ เป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญสูงสุด เราให้คำแนะนำและออกมาตรการป้องกันต่างๆ อย่างรัดกุมมาตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ในขณะเดียวกัน เราได้ดำเนินการทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้เราดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจต่อไปได้ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและเพื่อให้บริการลูกค้าของเราต่อไป เราได้เปิดตัวโครงการสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทั่วโลก ด้วยการบริจาคผลิตภัณฑ์และให้การสนับสนุนทางการเงิน และในไตรมาสแรกนี้ เราได้เริ่มต้นการดำเนินงานตามกรอบยุทธศาสตร์ใหม่ของเราได้ในที่สุด” คาร์สเทน โนเบล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เฮงเค็ลกล่าว

เฮงเค็ลรายงานผลการดำเนินงานด้วยยอดขายที่แข็งแกร่งในสภาพแวดล้อมของตลาดที่ท้าทายในช่วงไตรมาสแรก ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีกาวได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จากความต้องการที่ลดลงอย่างมากจากอุตสาหกรรมยานยนต์ ยอดขายของผลิตภัณฑ์บิวตี้แคร์ ก็ลดลงจากปีที่ผ่านมา ธุรกิจร้านทำผมประสบปัญหาอย่างมากจากการถูกสั่งให้ปิดร้านในหลายประเทศ ในทางตรงกันข้าม การเติบโตแบบปกติในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่แบรนด์ต่างๆ มียอดขายทรงตัว เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ความต้องการผงซักฟอกและน้ำยาทำความสะอาดในบ้านที่เพิ่มขึ้นอย่างมากทำให้ผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนมียอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

“เมื่อวิกฤติวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปเราจะยังคงปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดของเราอย่างรวดเร็วและยืดหยุ่น ผมเชื่อมั่นว่าด้วยทีมงานระดับโลกที่ทุ่มเทของเรา ภายใต้กรอบกลยุทธ์ใหม่ที่มุ่งเน้นไปที่การเติบโตอย่างมีเป้าหมาย ประกอบกับงบดุลที่แข็งแกร่งของบริษัท จะทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ดีพอที่จะรับมือกับสถานการณ์อันยากลำบากนี้และเราจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นจากวิกฤติที่เกิดขึ้น" นายคาร์สเทน โนเบลกล่าว

ยอดขายรวมของทั้งกลุ่ม

ยอดขายของกลุ่มลดลงเล็กน้อย -0.8 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาสแรกของปี 2563 จาก 4,969 ล้านยูโรในไตรมาสแรกของปี 2562 เหลือ 4,927 ล้านยูโร โดยทั่วไป (เช่นการปรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และการเข้าซื้อกิจการ/การถอนการลงทุน) ยอดขายลดลง -0.9 เปอร์เซ็นต์ ในระดับกลุ่ม การลดลงเป็นไปตามปัจจัยด้านราคา การพัฒนาด้านราคาและปริมาณก็แตกต่างกันไปในแต่ละหน่วยธุรกิจ การซื้อกิจการและการถอนการลงทุนทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 0.4 เปอร์เซ็นต์ ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ยอดขายลดลง -0.4 เปอร์เซ็นต์

ตลาดเกิดใหม่ที่มีอัตราการเติบโตของยอดขาย 2.2 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายของเราในตลาดอิ่มตัวลดลง -2.8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบปีต่อปี ยอดขายปกติในภูมิภาคยุโรปตะวันตกลดลง -4.6 เปอร์เซนต์ ในทางตรงกันข้ามเราสามารถเพิ่มยอดขายในภูมิภาคยุโรปตะวันออกได้ถึง 10.8 เปอร์เซนต์ ส่วนในภูมิภาคแอฟริกา / ตะวันออกกลาง เรามีการเติบโตของยอดขายปกติที่ 6.8 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาสแรกของปี 2563     

ยอดขายปกติลดลง ในภูมิภาคอเมริกาเหนือลดลง -1.4 เปอร์เซ็นต์และในภูมิภาคละตินอเมริกาลดลง -2.0 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ -5.7 เปอร์เซ็นต์

ยอดขายของเทคโนโลยีกาว

ในไตรมาสแรก ปี 2563 ยอดขายในกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกาว ลดลง -4.3 เปอร์เซนต์ จาก 2,309 ล้านยูโร ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็น 2,209 ล้านยูโร (เช่น การปรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และการเข้าซื้อกิจการ/การถอนการลงทุน) ทำให้ยอดขายลดลง 4.1เปอร์เซ็นต์จากปริมาณ ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก มีสาเหตุมาจากการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของภาคอุตสาหกรรมเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ยอดขายลดลง 0.3 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการเข้าซื้อกิจการ/การถอนการลงทุน ไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายแต่อย่างใด

การเติบโตของยอดขายปกติในธุรกิจแต่ละประเภท ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในระดับที่แตกต่างกันไป ยอดขายในธุรกิจยานยนต์และโลหะลดลงต่ำกว่าปีที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญส่วนใหญ่เนื่องมาจากการระงับการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ ธุรกิจด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอุตสาหกรรมก็มียอดขายลดลงเป็นอย่างมากเช่นกันอันเป็นผลมาจากการปิดตัวในภาคอุตสาหกรรมการบินและภาคอุตสาหกรรมทั่วไป การลดลงโดยรวมในภาคธุรกิจด้านงานช่าง การก่อสร้างและช่างมืออาชีพได้รับผลกระทบบ้างจากภาคการก่อสร้าง ส่วนธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภคมียอดขายคงที่

ธุรกิจในตลาดเกิดใหม่ที่แสดงให้เห็นถึงการลดลงของยอดขายโดยรวม ยอดขายในภูมิภาคลาตินอเมริกา แอฟริกา / ตะวันออกกลางและตลาดเกิดใหม่ของเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผลกระทบต่อธุรกิจของเราโดยเฉพาะในประเทศจีนและอินเดีย ในทางตรงกันข้ามยอดขายในภูมิภาคยุโรปตะวันออกกลับเพิ่มขึ้นอย่างมาก ตลาดสำคัญที่ทำให้เกิดการเติบโตในภูมิภาคนี้คือธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งธุรกิจเกี่ยวกับช่างฝีมือ ธุรกิจก่อสร้างและช่างมืออาชีพในรัสเซีย

ตลาดที่อิ่มตัวก็เช่นเดียวกัน มียอดขายติดลบ ขณะที่การเติบโตในเชิงบวกกลับเกิดขึ้นในตลาดที่อิ่มตัวของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยอดขายในภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตกอยู่ระดับต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเนื่องมาจากการลดลงของการพัฒนาในตลาดธุรกิจยานยนต์และโลหะและธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าอุตสาหกรรม สำหรับอเมริกาเหนือ ยอดขายที่ลดลงนั้นได้รับการชดเชยจากการเติบโตที่แข็งแกร่งในธุรกิจบรรจุภัณฑ์และสินค้าอุปโภคบริโภคและการเติบโตที่แข็งแกร่งในธุรกิจเกี่ยวกับช่างฝีมือ การก่อสร้างและช่างมืออาชีพ

ยอดขายของบิวตี้แคร์

หน่วยธุรกิจบิวตี้แคร์ประสบความสำเร็จด้วยยอดขาย 935 ล้านยูโรในไตรมาสแรกของปี 2563 ลดลงเล็กน้อย -2.6 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาสแรกของปี 2562: 960 ล้านยูโร) โดยทั่วไป (เช่น การปรับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และการเข้าซื้อกิจการ/การถอนการลงทุน)) ยอดขายลดลง -3.9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการลดลงนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องปริมาณ ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดขายลดลง -0.9 เปอร์เซ็นต์ การเข้าซื้อกิจการ/การถอนการลงทุนมีส่วนร้อยละ 2.3 ของการพัฒนายอดขาย

ยอดขายของหน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคอยู่ในระดับเดิมคงที่เทียบกับปีต่อปี ด้วยผลการดำเนินงานที่ดีในหมวดผลิตภัณฑ์บอดี้แคร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ไดอัล (Dial) ในหมวดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมนั้น ยอดขายโดยรวมลดลงเล็กน้อย เราประสบความสำเร็จในอัตราการเติบโตที่ดีในธุรกิจผลิตภัณฑ์ทำสีผม ในทางกลับกัน ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและจัดแต่งทรงผมมียอดขายลดลงเมื่อเทียบปีต่อปี

ผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อธุรกิจร้านทำผมของเรานั้นส่งผลติดลบอย่างมาก ในช่วงไตรมาสแรกของปีร้านทำผมต้องปิดการดำเนินงานจากมาตรการของรัฐบาลในหลายประเทศ ส่งผลให้ยอดขายลดลงไปเป็นตัวเลขสองหลักเปอร์เซ็นต์
การชะลอตัวที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 ส่งผลในแต่ละภูมิภาค ยอดขายในตลาดเกิดใหม่นั้นติดลบเล็กน้อย ภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ละตินอเมริกาและแอฟริกา / ตะวันออกกลาง ทั้งหมดมียอดขายลดลงเทียบปีต่อปี ในทางตรงกันข้าม ภูมิภาคยุโรปตะวันออกมีการเติบโตของยอดขายจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในหมวดธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งหลาย

ยอดขายโดยรวมในตลาดที่อิ่มตัวลดลง ภูมิภาคยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือมียอดขายลดลง ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคในอเมริกาเหนือมีการเติบโตที่แข็งแกร่งมากในหมวดผลิตภัณฑ์บอดี้แคร์ อย่างไรก็ตามไม่สามารถชดเชยยอดขายที่ลดลงไปจากผลกระทบจากธุรกิจร้านทำผมที่เกิดขึ้นในตลาดภูมิภาคนี้ ยอดขายในตลาดที่อิ่มตัวของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่ำกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย

ยอดขายของผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน

ยอดขายในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยประมาณ 5.3 เปอร์เซ็นต์ในช่วงไตรมาสแรกปี 2563 จาก 1,667 ล้านยูโรในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเป็น1,755 ล้านยูโรในปีนี้ โดยยอดการเติบโตที่แข็งแกร่งมาจากการเติบโตของยอดขายตามธรรมชาติ 5.5 เปอร์เซ็นต์และมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณความต้องการ ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดขายลดลง -0.2 เปอร์เซ็นต์ การเข้าซื้อกิจการ/การถอนเงินลงทุนส่งผลกระทบต่อยอดขายโดยรวม

การเจริญเติบโตของยอดขายสำหรับผลิตภัณฑ์ซักผ้าก็มีความแข็งแกร่ง ส่วนใหญ่เกิดจากแบรนด์หลักของเราคือแบรนด์ Persil ซึ่งประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก เนื่องมาจากนวัตกรรมเหนือสิ่งอื่นใด แบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอเมริกาเหนือนี้ยังมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นมาก การเจริญเติบโตแบบธรรมชาติในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนก็เติบโตแบบเลขสองหลักเช่นเดียวกัน สาเหตุหลักมาจากการเติบโตของแบรนด์ในตระกูล Pril Bref และ Somat

ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นแบบตัวเลขสองหลัก นับว่าตลาดเกิดใหม่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของการเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจนี้ เฮงเค็ลประสบความสำเร็จด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นแบบเลขสองหลักในตลาดแอฟริกา / ตะวันออกกลาง เอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) และภูมิภาคยุโรปตะวันออก การเติบโตของยอดขายในละตินอเมริกานั้นก็แข็งแกร่งมาก

ยอดขายจากผลการดำเนินงานในตลาดที่อิ่มตัวเป็นบวก ในขณะที่ยอดขายติดลบเล็กน้อยในภูมิภาคยุโรปตะวันตก แต่ภูมิภาคอเมริกาเหนือมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นบวก ยอดขายที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดสำคัญของเฮงเค็ล การเติบโตในตลาดที่อิ่มตัวของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นการเติบโตแบบเลขสองหลักเช่นเดียวกัน

สินทรัพย์สุทธิและฐานะการเงินของกลุ่มบริษัท

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อสินทรัพย์สุทธิและฐานะการเงินของกลุ่มบริษัทในระหว่างการดำเนินการตรวจทานเปรียบเทียบกับเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2562

ภาพรวม

วันที่ 7 เมษายน 2563 คณะกรรมการบริหารของบริษัทเฮงเค็ล เอจีแอนด์โค เคจีเอเอ Henkel AG & Co. KGaA ตัดสินใจว่าการคาดการณ์สำหรับปีงบประมาณ 2563 ที่ตีพิมพ์ในรายงานประจำปี 2562 ไม่สามารถใช้เป็นมาตรฐาน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด -19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก การประเมินผลงานและการคาดการณ์ผลการดำเนินงานทางธุรกิจให้มีความน่าเชื่อถือบนพื้นฐานความเป็นจริงเป็นไปได้ยากในขณะนี้

ทันทีที่เป็นไปได้ เราจะทำการประเมินผลการดำเนินธุรกิจในอนาคตได้อย่างน่าเชื่อถือมากเพียงพอสำหรับปี 2563 นี้ ถึงเวลานั้น เฮงเค็ลจึงจะเผยแพร่การคาดการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นไปได้