16 ส.ค. 2561  ดุสเซลดอล์ฟ เยอรมนี

เฮงเค็ลรายงานผลการดำเนินงานที่ดีในไตรมาสที่ 2 แม้จะได้รับผลกระทบเชิงลบจากค่าเงินที่ผันผวน

เฮงเค็ลรายงานยอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีกำไรขั้นต้นและกำไรต่อหุ้นที่ดีขึ้นในไตรมาสที่ 2

  • ยอดขายสถิติใหม่ที่ 5,143 ล้านยูโร การเติบโตของยอดขายปกติ (Organic Sales Growth) อยู่ที่ +3.5%
  • ส่วนต่างกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT)* ทำสถิตใหม่ที่ 926 ล้านยูโร ปรับขึ้น +1.8%
  • กำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิ (EPS)* อยู่ที่ 1.58 ยูโร เติบโตขึ้น +1.9% โดยยังไม่ได้คำนวณผลกระทบจากค่าเงินที่ผันผวน 7.7%
  • ธุรกิจสินค้าผู้บริโภคในอเมริกาเหนือกลับมาให้บริการตามปกติ
  • เฮงเค็ลรายงานการคาดการณ์ตลอดทั้งปี เพื่อสะท้อนผลกระทบที่เพิ่มขึ้นจากค่าเงินที่ผันผวนและราคาวัตถุดิบ รวมทั้งคาดการณ์ยอดขายของทั้งองค์กรว่าจะเติบโต 2-4% (คงเดิม) และส่วนต่างกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี*เติบโตราว 18% (เดิม 17.5%) ส่วนกำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิ*เติบโต 3-6% (เดิม 5-8%)

“จากการเติบโตของธุรกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้เฮงเค็ลมีพัฒนาการที่ดีในไตรมาสที่ 2 แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากค่าเงินที่ผันผวนและราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น เรามียอดขายต่อไตรมาสที่สูงเป็นประวัติการณ์ และสร้างส่วนต่างกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) ที่ดีขึ้น รวมทั้งมีรายได้ต่อไตรมาสที่ปรับปรุงแล้วซึ่งทำสถิติสูงสุด กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกาวสร้างการเติบโตจากยอดขายได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนมีการเติบโตที่ดี ในขณะที่กลุ่มธุรกิจบิวตี้แคร์มีพัฒนาการในเชิงบวก” ฮานส์ แวน ไบเล่น ซีอีโอ ของเฮงเค็ล กล่าว

 “เรามียอดขายปกติเติบโตในทุกภูมิภาค โดยมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในตลาดเกิดใหม่ และมีพัฒนาการที่ดีในตลาดอิ่มตัว โดยธุรกิจสินค้าผู้บริโภคของเราในอเมริกาเหนือได้กลับมาเติบโตอีกครั้งหลังจากให้บริการตามปกติ”

“เช่นเดียวกับไตรมาสที่ 1 เรายังคงเผชิญอุปสรรคจากค่าเงินและราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นในไตรมาสที่ 2 โดยค่าเงินได้ส่งผลกระทบเชิงลบต่อรายงานยอดขายที่ 6.1% หรือราว 310 ล้านยูโร ส่วนกำไรจากการดำเนินงานและกำไรต่อหุ้นของเราก็ได้รับผลกระทบจากค่าเงินเช่นกัน หากไม่นับผลกระทบจากค่าเงินแล้วนับว่าเราสร้างการเติบโตของกำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิได้อย่างแข็งแกร่งที่ 7.7%” ฮานส์ แวน ไบเล่น กล่าว

ปรับปรุงตัวเลขภาพรวมปี 2561

เฮงเค็ลได้แก้ไขแนวทางของปี 2561 ใหม่ โดยยืนยันว่ายอดขายปกติของเฮงเค็ลทั้งกลุ่มจะเติบโต 2-4% ตามเดิม ส่วนยอดขายปกติของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกาวคาดว่าจะเติบโต 4-5% จากเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 2-4% เฮงเค็ลคาดว่ากลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนจะเติบโตระหว่าง 2-4% และยืนยันคาดการณ์ของกลุ่มธุรกิจบิวตี้แคร์ว่าจะมียอดขายปกติเติบโตเชิงบวกที่ 0-2%

สำหรับผลตอบแทนจากการขายที่ปรับปรุงแล้ว (EBIT) ปัจจุบันเฮงเค็ลคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วราว 18% จากเดิมที่เคยคาดว่าจะมากกว่า 17.5% จากทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ ซึ่งจากความผันผวนของค่าเงินและราคาวัตถุดิบ เฮงเค็ลคาดว่าจะสามารถเพิ่มกำไรต่อหุ้นที่ปรับปรุงแล้วได้ระหว่าง 3-6% จากเดิมที่เคยคาดไว้ 5-8%

“ภาพรวมดังกล่าวตอกย้ำว่าเฮงค็ลมุ่งสร้างผลกำไรที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เราจะมุ่งมั่นดำเนินงานตามลำดับความสำคัญของกลยุทธ์ที่ได้วางไว้” ฮานส์ แวน ไบเล่น กล่าว

ผลการดำเนินงานด้านยอดขายและกำไรในไตรมาสที่ 2 ปี 2561

ยอดขายในไตรมาสที่ 2 ปี 2561 อยู่ที่ 5,413 ล้านยูโรซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเติบโตเล็กน้อยที่ 0.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดขายปกติซึ่งไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและการเข้าซื้อกิจการและการตัดทอนการลงทุน เพิ่มขึ้นดีเยี่ยมที่ 3.5% ส่วนการเข้าซื้อกิจการและการตัดทอนการลงทุนมีส่วนต่อการเติบโตของยอดขายที่ 3.5% ทำให้มีการเติบโตขึ้น 7% อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมีผลกระทบเชิงลบต่อยอดขายที่ -6.1%

กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกาว มียอดขายปกติเติบโตดีเยี่ยมที่ 5.2% ส่วนกลุ่มธุรกิจบิวตี้แคร์ มีการเติบโตของยอดขายปกติเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 0.4% ในขณะที่กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน รายงานตัวเลขยอดขายปกติที่เพิ่มขึ้น 2.9%

การเติบโตของยอดขายยังเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นในระดับเลขสองหลักของการขายผ่านช่องทางดิจิทัลของทุกธุรกิจ โดยเป็นผลจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจสินค้าผู้บริโภค

ตลาดเกิดใหม่ยังคงสร้างการเติบโตของยอดขายปกติให้ทั้งองค์กรได้สูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยมียอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 5.4% ส่วนตลาดอิ่มตัวในประเทศพัฒนาแล้วมียอดขายเติบโตขึ้น 2.2%

การเติบโตของยอดขายในภูมิภาคยุโรปตะวันตกอยู่ที่ 0.1% ซึ่งแสดงให้เห็นพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ส่วนในยุโรปตะวันออก ยอดขายเติบโต 8.2% แอฟริกาและตะวันออกกลาง ยอดขายเติบโต 4.7% ในอเมริกาเหนือ มียอดขายเพิ่มขึ้น 4.9% ละตินอเมริกา ยอดขายเติบโต 6.3% และเอเชียแปซิฟิกมียอดขายเพิ่มขึ้น 1.9%

กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้ว (EBIT) เพิ่มขึ้น 1.8% ทำสถิติใหม่โดยเพิ่มจาก 909 ล้านยูโร ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว เป็น 926 ล้านยูโร

ผลตอบแทนจากยอดขายที่ปรับปรุงแล้ว (EBIT) เพิ่มขึ้น 0.2 จุด ไปอยู่ที่ 18.0%

กำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิที่ปรับปรุงแล้ว เติบโตขึ้น 1.9% จาก 1.55 ยูโร ไปอยู่ที่ 1.58 ยูโร ผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนต่อการเติบโตของ EPS อยู่ที่ -5.8% กำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิที่ยังไม่คำนวณผลกระทบจากค่าเงิน เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 7.7%

เงินทุนหมุนเวียนสุทธิ คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ยอดขายอยู่ที่ 6.3% สูงกว่าไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 ซึ่งอยู่ที่ 5.2%

ผลการดำเนินงานในแต่ละกลุ่มธุรกิจ

กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกาวทำยอดขายปกติเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 5.2% ในไตรมาสที่ 2 โดยในภาพรวมมียอดขายเพิ่มขึ้น 2.6% อยู่ที่ 2,432 ล้านยูโร ส่วนกำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้ว เพิ่มขึ้น 1.5% อยู่ที่ 462 ล้านยูโร และผลตอบแทนจากการขายที่ปรับปรุงแล้ว น้อยกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วเล็กน้อย

ด้านกลุ่มธุรกิจบิวตี้แคร์ มียอดขายปกติเติบโต 0.4% ยอดขายในภาพรวมเติบโตขึ้น 3.8% อยู่ที่ 1,035 ล้านยูโร กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้น 4.4% อยู่ที่ 187 ล้านยูโร ส่วนผลตอบแทนจากการขายที่ปรับปรุงแล้ว เพิ่มขึ้น 0.1 จุดไปอยู่ที่ 18.1%

สำหรับกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน มียอดขายปกติเติบโตขึ้น 2.9% ในไตรมาสที่ 2 ส่วนยอดขายโดยรวมอยู่ที่ 1,644 ล้านยูโร เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 1,703 ล้านยูโร กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 ส่วนผลตอบแทนจากการขายที่ปรับปรุงแล้ว เพิ่มขึ้น 0.4 จุดไปอยู่ที่ 17.9%

มีผลการดำเนินงานที่ดีในครึ่งแรกของปี 2561

ครึ่งแรกของปี 2561 เฮงเค็ลสร้างยอดขาย 9,978 ล้านยูโร มีการเติบโตของยอดขายปกติซึ่งยังไม่รวมผลกระทบจากค่าเงินและการเข้าซื้อกิจการและการตัดทอนการลงทุนที่ 2.3% โดยผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ยอดขายลดลง -7.4%

กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้ว เพิ่มขึ้น 0.3% จาก 1,763 ล้านยูโร เป็น 1,768 ล้านยูโร

ผลตอบแทนจากยอดขายที่ปรับปรุงแล้ว เพิ่มขึ้น 17.4 จุด ไปอยู่ที่ 17.7%

กำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิที่ปรับปรุงแล้ว เติบโตขึ้น 1.7% จาก 2.96 ยูโร ไปอยู่ที่ 3.01 ยูโร ผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนต่อการเติบโตของ EPS อยู่ที่ -6.1% กำไรต่อหุ้นบุริมสิทธิที่ยังไม่คำนวณผลกระทบจากค่าเงินเติบโตขึ้น 7.8%

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกาวมียอดขายปกติเติบโตอย่างดีเยี่ยมที่ 5.0% โดยมีผลตอบแทนจากการขายที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 18.5%

ยอดขายของกลุ่มธุรกิจสินค้าผู้บริโภคได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จากปัญหาการขนส่งในอเมริกาเหนือ โดย กลุ่มธุรกิจบิวตี้แคร์มียอดขายปกติที่ดีขึ้น โดยติดลบ -0.2% ซึ่งน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนมียอดขายปกติเติบโต 1.1% โดยผลตอบแทนจากการขายที่ปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งจาก 17.4% เป็น 18.2%

นับถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2561 เฮงเค็ลมีเงินทุนสุทธิอยู่ที่ -3,597 ล้านยูโร (วันที่ 31 ธันวาคม 2560 อยู่ที่ -3,225 ล้านยูโร)

* ปรับปรุงตัวเลขแล้วจากค่าใช้จ่าย/กำไรในการต่อรองราคาซื้อ และค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง

แม็กกี้ แทน เฮงเค็ล เอจี แอนด์ โค เคจีเอเอ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ +65 6424 7045 ส่งอีเมลล์ ดาวน์โหลดนามบัตร เพิ่มเนื้อหาของฉัน

ข้อมูลเพิ่มเติม