การเกิดขึ้นของหลายๆ สิ่ง นับตั้งแต่เครือข่ายการเชื่อมต่อระหว่างกันของวัตถุ อุปกรณ์ และสิ่งต่างๆ ไปจนถึงรถยนต์ที่ขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ รวมไปถึงความกังวลเรื่องสภาพภูมิอากาศ และแนวคิดใหม่เรื่องยานพานะ เป็นความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและความต้องการด้านสังคมและการเมือง ที่นำไปสู่ข้อถกเถียงว่าอนาคตของรถยนต์ควรจะเป็นอย่างไร โดยประเด็นที่พูดคุยกันคือรถยนต์จะสามารถปรับให้มีความชาญฉลาดและอยู่อย่างยั่งยืนในอนาคตได้อย่างไร ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายท่านก็ได้ออกมานำเสนอแนวคิดการเปลี่ยนแปลงในระดับพื้นฐาน หลายคนอาจสงสัยว่าการขับขี่แห่งอนาคตที่กำลังได้รับความสนใจนี้คืออะไร บทความนี้จะมาอธิบายให้ทราบถึงเทคโนโลยีที่มีความสำคัญ และบทบาทของเฮงเค็ลที่เป็นหัวใจสำคัญในการผลิตรถยนต์อย่างต่อเนื่องไปจนถึงอนาคต
27 ต.ค. 2560
นวัตกรรมยานยนต์ในอนาคต
วิสัยทัศน์ของยานยนต์แห่งอนาคตคือ การผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและมีความยั่งยืน ชาญฉลาดและสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและขับเคลื่อนได้แบบดิจิทัล รถยนต์จะสามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวของมันเองในโหมดขับขี่อัตโนมัติเพื่อนำผู้โดยสารไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการ ซึ่งจะกลายเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนกำลังค้นหาแนวคิดและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อพัฒนาโซลูชั่นที่สามารถแก้ไขความท้าทายต่างๆ ให้บรรลุวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ เทคโนโลยีที่คิดค้นไว้หลายชนิดได้ถูกนำมาใช้แล้วในกระบวนการผลิตในปัจจุบันและเป็นที่ยอมรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อันที่จริงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ให้ความไว้วางใจในความเชี่ยวชาญของเฮงเค็ลในกระบวนการนี้มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เนื่องจากหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีกาวของเฮงเค็ลมีพอร์ตโฟลิโอที่แตกต่าง และช่วยให้การผลิตรถยนต์มีความยั่งยืน ปลอดภัย และสะดวกสบายมากขึ้น
นวัตกรรมยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
ในอีก 5 ปีข้างหน้า 90% ของนวัตกรรมการผลิตรถยนต์ทั้งหมดจะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เนื่องจากยานพาหนะต้องใช้การประมวลผลข้อมูลที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเทรนด์ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะรถยนต์ในปัจจุบันมีการติดตั้งคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กหรือที่เรียกว่าชุดควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ (อีซียู) ไว้ 20-80 ตัว ขึ้นอยู่กับรุ่น และคอมพิวเตอร์เหล่านี้มีการประมวลผลข้อมูลของยานพาหนะราว 25 กิกะไบต์ต่อชั่วโมง รถยนต์ระดับมาตรฐานในอนาคตจะมีคอมพิวเตอร์ติดตั้งสูงสุดถึง 100 ตัว เนื่องจากปริมาณการใช้ข้อมูลจะเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องมาจากระบบผู้ช่วยขับขี่ประสิทธิภาพสูงที่จะถูกนำมาใช้งานเพิ่มขึ้นเพื่อให้การขับขี่มีความปลอดภัยและสะดวกสบาย นอกจากนี้การเพิ่มความสามารถด้านการสื่อสารและการเชื่อมต่อ ทำให้รถยนต์ต้องมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลมากขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น มีการกำหนดให้รถยนต์รุ่นใหม่ที่จำหน่ายในสหภาพยุโรปหลังวันที่ 31 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป ต้องติดตั้งฟังก์ชั่นเรียกความช่วยเหลือ (e-call) แบบอัตโนมัติ มากับตัวรถด้วย
ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น
การเพิ่มขึ้นของการใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้า ทำให้ปริมาณการใช้งานข้อมูลเติบโตตามไปด้วย นอกเหนือจากฟังก์ชั่นมอนิเตอร์และควบคุมแล้ว ระบบจัดการแบตเตอรี่ก็ทำหน้าที่เป็นตัวประสานระหว่างยานพาหนะและส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่ในแบตเตอรี่ด้วยเช่นกัน โดยจะส่งข้อมูลการทำงานในขณะนั้นไปยังรถ ปัจจุบันมีการผลิตรถที่ใช้เครื่องยนต์ไฮบริดหรือไฟฟ้าถึง 3 ล้านคันต่อปี โดยในปี 2573 ปริมาณ 1 ใน 4 ของรถใหม่ที่ออกจากโรงงานจะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า การเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากปัจจัยสำคัญคือแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงและมีต้นทุนการผลิตต่ำ ทำให้การผลิตแบบจำนวนมากเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามแบตเตอรี่และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ก็ทำให้รถมีน้ำหนักมากขึ้นจึงจำเป็นต้องลดน้ำหนักส่วนประกอบอื่นๆ ลง เพราะหากรถยนต์ไฟฟ้ามีน้ำหนักมากขึ้นก็จำเป็นต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้นและทำให้ระยะการขับขี่ลดลงด้วย จึงเป็นสาเหตุให้ผู้ผลิตหันมาใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา เช่น อลูมิเนียม หรือวัสดุสังเคราะห์ต่างๆ
ประสบการณ์ขับขี่รูปแบบใหม่
รถยนต์ในอนาคตจะมีความเงียบและใช้งานได้หลายรูปแบบ ปลอดภัยและสะดวกสบาย อีกทั้งยังเพิ่มทางเลือกให้ผู้ใช้สามารถนั่งโดยสารและขับขี่ได้อย่างอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีความชาญฉลาด สามารถติดต่อสื่อสารกับรถคันอื่น และถนน รวมทั้งที่จอดรถได้ ประสบการณ์ใช้งานเหล่านี้จะสัมผัสได้จากภายในตัวรถด้วยเช่นกัน โดยห้องขับขี่จะเป็นระบบดิจิทัล และนวัตกรรมจอภาพจะเอื้อให้สามารถใช้งานฟังก์ชั่นข่าวสารและความบันเทิงใหม่ได้ รวมถึงปฏิวัติรูปแบบการบังคับและสั่งการรถยนต์ด้วย

เฮงเค็ลช่วยให้รถยนต์มีความยั่งยืน ปลอดภัย และสะดวกสบาย ด้วยผลิตภัณฑ์ถึง 300 ประเภทการใช้งาน ซึ่งเกิดจากความเชี่ยวชาญและพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายของเทคโนโลยีกาว ซีลแลนท์ และสารเคลือบคุณสมบัติเฉพาะ ทำให้เฮงเค็ลสามารถนำนวัตกรรมหลักมาสู่ท้องถนน คุณสามารถคลิ๊กหน้าถัดไปเพื่อดูว่านวัตกรรมเหล่านี้มีอะไรบ้าง
ระบบนำทางอัตโนมัติ
เทคโนโลยีผู้ช่วยอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ทุกวันนี้ ช่วยควบคุมนับตั้งแต่พวงมาลัยไฟฟ้าแบบพาวเวอร์ ระบบเบรคฉุกเฉิน ไปจนถึงช่วยจอดรถแบบอัตโนมัติ จนทำให้การขับขี่มีความสะดวกสบายมากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือมีความปลอดภัยมากกว่าเดิม เทคโนโลยีดังกล่าวทำงานโดยใช้ระบบเรดาห์ กล้องตรวจจับ และเซนเซอร์ เพื่อตรวจสอบสิ่งที่อยู่รอบตัวรถและส่งข้อมูลเกี่ยวกับรถแบบเรียลไทม์ไปยังระบบผู้ช่วยขับขี่ ซึ่งในสถานการณ์วิกฤต ระบบดังกล่าวจะบังคับรถให้โดยอัตโนมัติ รถยนต์ในอนาคตจะมีการติดตั้งกล้องมากถึง 10 ตัว และเซนเซอร์มากกว่า 200 จุดที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับความปลอดภัยและเอื้อต่อการขับขี่แบบอัตโนมัติ
เฮงเค็ลนำเสนอพอร์ตโฟลิโอของเทคโนโลยีที่หลากหลายที่สุดซึ่งใช้ในการผลิตระบบผู้ช่วยขับขี่ที่ก้าวล้ำ ซึ่งรวมถึงโซลูชั่นยึดติด เชื่อมต่อ ยาแนว และสารเคลือบพื้นผิวขององค์ประกอบและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงวัสดุเพื่อช่วยจัดการเรื่องการระบายความร้อนได้อย่างสูงสุด พอร์ตโฟลิโอของเฮงเค็ลมีตั้งแต่กาวที่เป็นสื่อนำและไม่เป็นสื่อนำ กาวยึดติดโครงสร้าง ไปจนถึงสารเคลือบป้องกัน สารเคลือบยึดจับ (encapsulation) หมึก สารสำหรับอันเดอร์ฟิลด์ และน้ำยาประสานสำหรับบัดกรี ซึ่งใช้งานได้อย่างหลากหลาย อาทิ ในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สายสัญญาณ และกรอบ โดยในการผลิตกล้องรถยนต์ 1 ตัวอาจมีการใช้โซลูชั่นของเฮงเค็ลมากถึง 10 ประเภท
เทคโนโลยีแบตเตอรี่
รถยนต์ไฟฟ้าจำเป็นต้องพึ่งพาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประสิทธิภาพสูงที่ชาร์จได้ ซึ่งเป็นทางเลือกที่มีความยั่งยืนมากกว่าเครื่องยนต์เชื้อเพลิงแบบเผาไหม้ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการใช้งานมากขึ้นจำเป็นต้องพัฒนาแบตเตอรี่เหล่านี้ให้ขับขี่ได้ระยะทางไกลขึ้น และมีราคาถูกลง ซึ่งต้นทุนกว่า 50% ของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันมาจากเทคโนโลยีแบตเตอรี่ และเป็นสาเหตุที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาสูงกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบเก่าอย่างเห็นได้ชัด
อุณหภูมิมีความสำคัญอย่างมากต่อการทำงานของแบตเตอรี่ ซึ่งต้องการอุณหภูมิคงที่ระหว่าง 15-35 องศาเซลเซียส เฮงเค็ลช่วยให้การบริหารจัดการความร้อนที่มีความสำคัญนี้เป็นไปได้ด้วยโซลูชั่นครีมสื่อนำความร้อน และวัสดุกระจายความร้อน รวมทั้งแผ่นนำความร้อนหรือ Gap Pad ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ช่วยป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่มีความร้อนสูงเกินไป นอกจากนี้ยังมีหมึกพิมพ์นำความร้อนที่ทำงานได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้มั่นใจว่าแบตเตอรี่จะมีอุณหภูมิอย่างน้อย 10 องศาเซลเซียสเมื่อรถเริ่มทำงาน และไม่เย็นจนเกินไปแม้อยู่ในสภาพอากาศที่หนาวจัด
เฮงเค็ลยังพัฒนาผลิตภัณฑ์อีกมากมายที่เอื้อต่อรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งสารเคลือบคุณสมบัติเฉพาะ เช่น กันความชื้น ก็มีส่วนในการปกป้องแบตเตอรี่ รวมถึง
วัสดุสื่อนำไฟฟ้าที่นำมาใช้ในระบบจัดการแบตเตอรี่เพื่อปกป้องแผงวงจร เฮงเค็ลยังมีบทบาทสำคัญในส่วนของการประกอบแบตเตอรี่ โดยเรานำเสนอความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์ทั้งในการยึดติดโครงสร้างและซีลแลนท์ โดยให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาแก่ลูกค้านับตั้งแต่ขั้นต้นคือการออกแบบรถ เทคโนโลยีของเฮงเค็ลยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวกระจายพลังงาน ซึ่งส่งผ่านไฟฟ้าที่เก็บสะสมในแบตเตอรี่ไปยังเครื่องยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย
ระบบอัจฉริยะ
ความสามารถในการขับเคลื่อนแบบอัตโนมัติ และการสื่อสารแบบเชื่อมต่อเครือข่ายอย่างสมบูรณ์ ทำให้รถยนต์เปรียบเหมือนสมองที่ขับเคลื่อนได้ รถยนต์ในอนาคตต้องมาพร้อมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจำนวนมากหรือที่เรียกว่าชุดควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์ (อีซียู) เพื่อประมวลผลข้อมูลที่มีความสำคัญและเกี่ยวข้องกันในแบบเรียลไทม์ หัวใจสำคัญของอีซียูก็คือแผงวงจรหรือ PC board แต่อย่างไรก็ตามรถสมัยใหม่ถูกใช้งานพื้นที่ทุกมิลลิเมตรอย่างเต็มที่ และไม่สามารถทำให้ตัวรถมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือมีน้ำหนักมากขึ้นได้ ดังนั้นแผงวงจรจึงจำเป็นต้องมีขนาดเล็กลง มีอายุการใช้งานนานขึ้น และมีสมรรถนะมากขึ้น ซึ่งความเชี่ยวชาญเฮงเค็ลสามารถเข้ามาช่วยเหลือในส่วนนี้ได้ด้วยโซลูชั่นยึดติดที่เชื่อถือได้ และปกป้องระบบจากความร้อนเกิน การขัดข้องทางเครื่องกล ความชื้น และไฟฟ้าฟ้าลัดวงจร
จอแสดงผล
ฟังก์ชั่นข้อมูลแบบใหม่ซึ่งอยู่ในรถยนต์สมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นระบบสั่งการด้วยเสียง จอสัมผัส ข้อมูลห้องขับขี่ดิจิทัล กำลังเข้ามาแทนที่อุปกรณ์อนาล็อก จำนวนจอแสดงผลภายในรถจะมีมากขึ้น นับตั้งแต่จอแจ้งเตือนที่กระจกหน้า ไปจนถึงจอภาพดิจิทัลในห้องขับขี่ จอสัมผัสที่แผงคอนโซล และฟังก์ชั่นการใช้งานแบบใหม่ในกระจกมองหลังและกระจกมองข้าง เหล่านี้แสดงให้เห็นว่ารถยนต์กำลังปรับเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัล ซึ่งการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้าและระบบผู้ช่วยขับขี่แบบใหม่จะเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันเทรนด์เหล่านี้ให้ก้าวไกลมากขึ้น
เฮงเค็ลนำเสนอพอร์ตโฟลิโอของโซลูชั่นที่หลากหลายสำหรับจอแสดงผล เช่น กาวยึดติดโครงสร้างสำหรับกรอบรถและชิ้นส่วน หรือยาแนวของส่วนประกอบต่างๆ นอกจากนี้กาวโปร่งแสงสำหรับจอแอลซีดี หรือแอลอีดี ที่ไม่เพียงเพิ่มความทนทานและอายุการใช้งาน แต่ยังทำให้ได้คุณภาพการแสดงผลที่ดี และล่าสุดเฮงเค็ลสามารถทำให้การใช้รูปทรงและดีไซน์แบบสามมิติสามารถเป็นจริงได้ด้วยเทคโนโลยีกาวของเรา
โครงสร้างน้ำหนักเบา
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตรถยนต์ต่างพยามหาทางแก้ไขเรื่องน้ำหนักของรถที่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากกฎข้อบังคับทั้งเชิงรุกและเชิงรับด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้น และอุปกรณ์และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีจำนวนมาก ซึ่งแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้ายิ่งจะทำให้ปัญหาเรื่องน้ำหนักมีมากขึ้น ยิ่งยานพาหนะมีน้ำหนักมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะปลดปล่อยคาร์บอนออกมามากขึ้นเท่านั้น จึงเป็นสาเหตุที่อุตสาหกรรมยานยนต์ได้หันไปใช้วัสดุโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาอย่างอลูมิเนียมและวัสดุสังเคราะห์
กาวและซีลแลนท์ของเฮงเค็ลช่วยให้โครงสร้างรถยนต์ที่มีน้ำหนักเบาเป็นจริงได้ เพราะการยึดติดด้วยกาวแทนการเชื่อมสามารถลดน้ำหนักของรถได้ราว 15% ทั้งนี้จุดที่มีการเชื่อมต่อกันด้วยกาวสามารถรับแรงแกว่ง แรงสั่นสะเทือน และการเปลี่ยนอุณหภูมิที่สูงได้ รวมทั้งมั่นใจได้ว่าวัสดุคนละชนิดกันจะสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างทนทาน กาวของเฮงเค็ลไม่เพียงถูกนำไปใช้ยึดติดตัวถังรถ เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง กระปุกเกียร์ กระจกมองหลัง เบาะ และพวงมาลัย แต่ยังนำไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่นอีกมากมาย รวมทั้งช่วยให้รถยนต์มีความปลอดภัย ทนทานต่อการเสียดสี และมีความคงทนมากขึ้น